ข่าวสารบริษัท
13 มีนาคม 2566

BCPG จับมือ Ampace บริษัทร่วมทุนของ ATL และ CATL จ่อสร้างธุรกิจผลิตแบตเตอรี่รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือน อุตสาหกรรมขนาดกลาง และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) และนายเจอรี่ เจีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซี่ยเหมิน เอมเพส เทคโนโลยี จำกัด (Xiamen Ampace Technology Limited) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการพัฒนาธุรกิจแบตเตอรี่ เพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อและสามล้อ แบตเตอรี่สำหรับติดตั้งในภาคครัวเรือน (Residential) ในภาคอุตสาหกรรม (Commercial & Industrial) และโอกาสในการจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ระดับโมดูลหรือแพ็ค รวมถึงระดับเซลล์เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศไทยและประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ สำนักงานใหญ่บีซีพีจี อาคารเอ็มทาวเวอร์

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บีซีพีจี เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นธุรกิจด้านแบตเตอรี่ในภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมขนาดกลาง รวมถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ได้แก่ แบตเตอรี่ และระบบจัดการ โดยบีซีพีจีได้เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจของแบตเตอรี่ที่สามารถต่อยอดจากธุรกิจที่บริษัทฯ และบริษัทในเครือบางจาก ได้ดำเนินการอยู่แล้ว อาทิ การให้บริการมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie ของบริษัทในกลุ่มบางจาก ความเชี่ยวชาญของบีซีพีจีในการบริหารจัดการด้านพลังงานและการพัฒนาธุรกิจดิจิทัลร่วมกับเทคโนโลยีบล็อคเชน เช่น โครงการทาวน์สุขุมวิท 77 (หรือT77) หรือ โครงการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Smart City) ที่มีการใช้ดิจิทัลโซลูชั่นด้านพลังงานที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับเมืองขนาดใหญ่ ลดต้นทุนด้านพลังงาน พร้อมรับมือกับราคาค่าเชื้อเพลิง และอัตราค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในปี 2568 ภาครัฐได้ตั้งเป้าหมาย การใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยอยู่ที่ 360,000 คัน โดยราคาเฉลี่ยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหลังได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐอยู่ที่ 50,000 บาท/คัน มูลค่าตลาดโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 18,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้มีการประเมินว่าตลาดโซลาร์รูฟท้อป (Solar Rooftop) ในประเทศไทยจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่าร้อยละ 22 ต่อปีโดยเฉลี่ย หรือแตะระดับ67,000 ล้านบาทในปี 2568 โดยสัดส่วนร้อยละ 30 เป็นการใช้ไฟฟ้าในภาคครัวเรือน

ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่บ้านในช่วงเวลากลางวัน การติดตั้งแบตเตอรี่เพื่อเก็บไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท้อปที่ผลิตได้ในช่วงกลางวัน และนำมาใช้ในช่วงเวลาหัวค่ำ (18.00-22.00 น.) ซึ่งเป็นช่วงที่ฐานค่าไฟฟ้ามีราคาสูง จะทำให้เกิดการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น การร่วมมือระหว่าง บีซีพีจี และ Ampace จะเป็นการเกื้อหนุนกันของทั้งสองบริษัทในการสร้างธุรกิจ new S-curve ในอนาคตอันใกล้นี้” นายนิวัติกล่าวทิ้งท้าย

สำหรับ บริษัท เซี่ยเหมิน เอมเพส เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท Amperex Technology Limited (ATL, Hong Kong Special Administrative Region of China) และ Contemporary Amperex Technology Co., Limited (CATL, Fujian China) ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาด้านการผลิต การให้บริการ รวมถึงการพัฒนาธุรกิจที่ใช้แบตเตอรี่ขนาดกลาง เช่น แบตเตอรี่ในมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ติดตั้งในภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมโดยในปี 2565 ที่ผ่านมา ทางบริษัทมียอดการขายรวมเป็นมูลค่า 467 ล้านดอลลาร์สหรัฐ