พลังงานลมถูกนำมาใช้เป็นพลังงานทางเลือก เพราะมีปริมาณมาก มีอยู่ทั่วไป สะอาด และมีผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมน้อย และได้กลายมาเป็นแหล่งพลังงานหลักของหลายๆ ประเทศ ทั้งการติดตั้งบนบกและการติดตั้งในทะเล
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่นอกเหนือไปจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต บีซีพีจีจึงได้เข้าลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในปี 2560 ที่เมืองนาบาส (Nabas) บนเกาะวิซายัส (Visayas) ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยการถือหุ้นร้อยละ 40 ในบริษัท เพโทรวินด์ เอเนอร์ยี จำกัด (PetroWind Energy Inc.) มีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุน รวม 20 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย
14.4 เมกะวัตต์
ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว
5.3 เมกะวัตต์
อยู่ระหว่างการพัฒนา
โครงการมีอัตราความสามารถในการผลิตไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 39 หรือ 9.4 ชั่วโมงต่อวัน
และในช่วงกลางปี 2561 บีซีพีจี ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท ลมลิกอร์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ ในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งโครงการได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562
9 เมกะวัตต์
ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว
เพื่อขยายฐานธุรกิจพลังงานสะอาดในกลุ่มประเทศ CLMV บีซีพีจี จึงได้เข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริเวณแขวงเซกองและอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผ่านบริษัทร่วมทุน อิมแพค เอนเนอร์ยี่ เอเซีย ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Impact Energy Asia Development Limited) มีกำลังการผลิตรวม 290 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการลงทุน (ร้อยละ 45) เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งขณะนี้โครงการยังอยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566
290 เมกะวัตต์
อยู่ระหว่างการพัฒนา
นาบาส (ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว)
14.4 MW
นาบาส (อยู่ระหว่างการพัฒนา)
5.3 MW
นครศรีธรรมราช : ปากพนัง (ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว)
9 MW
เซกอง และ อัตตะปือ (อยู่ระหว่างการพัฒนา)
230 MW